สวัสดีครับ กับมาพบกับบทความเปรียบเทียบเครื่องผลิตออกซิเจนอีกครั้ง หลังจากที่ผมได้เขียนบทความ
เปรียบเทียบเครื่องผลิตออกซิเจน Yuwell VS Canta (อ่่านบทความกดที่ลิงค์ไดเ้ลยนะครับ)
ลูกค้าหลายๆท่านก็รีเควสมาว่าทำไมถึงไม่เทียบรุ่นอื่นด้วย อยากทราบรายละเอียดเช่นกัน
จนมาถึงประเด็นที่ว่ามีเครื่องผลิตออกซิเจนรุ่นที่เป็นแบรนด์นอกอย่างเยอรมันเข้ามาเกี่ยวข้องว่าทำไมถึงราคาสูงจัง
เมื่อเทียบ กับรุ่นในท้องตลาดก็เป็นแบรนด์เยอรมันเช่นกันทำไมราคาต่างกันหละ ?
ด้วยความที่ผมก็อยากจะอธิบายให้ลูกค้าทราบที่มีความสนใจในเครื่องผลิตออกซิเจน เพื่อนำไปใช้งานกับผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยที่มีภาวะขาดออกซิเจนได้พิจารณาให้ทราบพร้อมๆกัน จึงคิดบทความ Content นี้ขึ้นมาเพื่อไขข้อสงสัยให้เกิดความกระจ่างขึ้นครับ
จึงเป็นที่มาของบทความนี้
เครื่องผลิตออกซิเจน มาตราฐานเยอรมัน VS ผลิตเยอรมันต่างกันยังไง ??
เครื่องผลิตออกซิเจนมาตราฐานเยอรมัน คืออะไร ?
คือเครื่องผลิตออกซิเจน ที่ทำการผลิตภายใต้การควบคุม มาตราฐาน QC เยอรมัน ซึ่งทั้งโลกยอมรับในเรื่องของความเป็นมาตราฐานการผลิต อุปกรณ์การแพทย์ หากมาจากเยอรมัน ว่าทนทาน คุณภาพมาตราฐานสูง ส่วนใหญ่แล้วบุคลากรทางแพทย์ รวมถึงผู้ที่เคยใช้งานเองที่บ้าน ก็จะรู้สึกอุ่นใจไว้วางใจที่จะใช้กับผู้ป่วย โดยไม่มีความกังวลใดๆ
จึงเป็นเหตุให้สินค้าอุปกรณ์ทางการแพทย์หลายๆชนิดมักจะมีการระบุมาตราฐานสินค้าเยอรมัน
ยกตัวอย่างแบรนด์ที่ Now Oxygen เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย Owgels รุ่น OZ-5-01PW0 ที่หลายๆท่านมักเข้าใจผิดว่าเป็นแบรนด์เยอรมัน เนื่องจากทางผู้ผลิตชูเรื่องมาตราฐานการผลิตแบบเยอรมันไว้เป็นจุดขาย
แต่!! เดี๋ยวก่อน การระบุว่าเป็นมาตราฐานเยอรมัน ก็ไม่ใช่เยอรมันเสมอไปซะทั้งหมดนะครับ
ในบางรุ่นเป็นแบรนด์จีน ผลิตจีนแท้ๆ เหตุฉไนถึงได้เอาธงชาติเยอรมันไปติดได้ เหตุผลนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน และซับซ้อนครับ หากจะแยกว่าทำไมถึงเอาคำว่าเยอรมันมาติดไว้ก็ใช่ว่าจะเป็นมาตราฐาน หรืออะไหล่ทุกชิ้นส่วนมาจากเยอรมันซะทั้งหมด
ยกตัวอย่าง อะไหล่ที่มักนำมาชูจุดเด่น ว่ามาจากเยอรมัน ซึ่งก็ยังค่อนข้างคลุมเคลือ เพราะบอกไม่ชัดเจน ว่านำเข้าจากเยอรมัน ผลิตจีน หรือลอกแบบการผลิตจากเยอรมัน (ส่วนใหญ่ที่พบเจอจะเป็นแบบหลังครับ) เพราะการนำเข้าอะไหล่จากเยอรมันราคาต้นทุนค่อนข้างสูงขึ้น จะไม่สามารถนำเครื่องมาขายในท้องตลาดที่ราคาต่ำๆได้
ยกตัวอย่างที่ 1
สินค้าที่ระบุว่า มาตราฐานคอมเพลสเซอร์เทคโนโลยีเยอรมัน นั่นอาจจะแปลได้ 2 ความหมายคือ คอมเพลสเซอร์นำเข้าจากเยอรมัน หรืออีกใจความคือ ผลิตที่จีน แต่ผลิตให้คล้ายเทคโนโลยีเยอรมัน (ซึ่งส่วนนี้ผมมองว่าเป็นเรื่องของการตลาด) สุดท้ายแล้วก็คือแบรนด์จีน ผลิตจีนอย่างเลี่ยงไม่ได้ครับ เครื่องลักษณะนี้อาจจะมีระบุการ QC เยอรมัน หรือในบางแบรนด์ก็ระบุที่ label ตรงๆเลยว่าผลิตที่ประเทศจีน จากโรงงานไหน
(แต่ดันทำการตลาดว่าเป็นของเยอรมันซะงั้น) ยกตัวอย่างแบรนด์ที่เป็นในตัวอย่างที่ 1 Owgels Dedakj
ยกตัวอย่างที่ 2
การจ้างผลิต หรือจ้างโรงงานผลิตที่รับทำ OEM ส่วนใหญ่จะอยู่ภายในประเทศจีน โดยทางผู้ผลิตแบรนด์ต่างๆจากอเมริกา เยอรมัน หรือประเทศอื่น จะจ้างให้ทางจีนเป็นผู้ผลิต และส่งขายภายในโซนเอเชียเพื่อลดต้นทุนการผลิตของแบรนด์นั้นๆ ซึ่งมีอยู่หลายแบรนด์ในท้องตลาด หากจะสังเกตุว่าเครื่องผลิตมาจากที่ได้สามารถดูได้จาก label หลังเครื่อง ยกตัวอย่างโรงงานที่มีฐานผลิตที่ค่อนข้างใหญ่ที่สุดจะมี Canta Medical ที่ผลิตแบรนด์ตนเองออกมาจำหน่าย รวมถึงรับทำ OEM ให้กับแบรนด์ดังๆทั่วโลกปีละหลายหมื่นเครื่อง
บทสรุป เครื่องผลิตออกซิเจนมาตราฐานเยอรมัน
เครื่องผลิตออกซิเจนที่อาจจะไม่มาจากเยอรมันแท้ก็ใช่ว่าไม่ได้มาตราฐาน เพียงแต่ในหัวข้อนี้ผมอยากอธิบายให้เข้าใจว่าเครื่องที่มีลักษณะระบุแค่มาตราฐานเยอรมันมีลักษณะแบบไหน ทุกท่านที่ได้เครื่องไปใช้งานหากมารับรู้ทีหลังอาจจะเสียความรู้สึกได้ครับ ( ไหนบอกว่าเยอรมัน ^ ^ ) ส่วนใหญ่แล้วหากระบุสเปคชัดเจน มีการผ่านตรวจสอบนำเข้าจาก อย. ก็ถือว่าเชื่อใจได้ระดับหนึ่งแล้วครับว่าใช้งานได้จริงปลอดภัยแน่นอน
Tips การดูเครื่องว่ามาจากเยอรมันแท้หรือไม่
เครื่องผลิตออกซิเจนที่มีราคาไม่สูงมากแต่ระบุว่ามาจากเยอรมัน นำเข้าจากเยอรมัน ส่วนนี้ลูกค้าต้องดูให้ละเอียด วิธีเช็คที่ง่ายที่สุด คือ นำชื่อรุ่น หรือชื่อแบรนด์เซิร์จหาเว็ปต้นสังกัด (Web official) ของแบรนด์นั้นๆ หรือหาข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบข้อมูลว่าตรงกันหรือไม่ หรือหากมีโอกาสที่เข้าไปดูสินค้าจริงก็สามารถดูที่ label ที่แปะด้านหลังเครื่องจะมีระบุสถานที่ ประเทศที่ผลิตชัดเจน
เครื่องผลิตออกซิเจน ผลิตและนำเข้า จากเยอรมัน คือแบบไหน ?
เครื่องผลิตออกซิเจนที่นำเข้าจากเยอรมันคือเครื่องที่เป็นโรงงานผลิตตั้งอยู่ในประเทศเยอรมัน และใช้เทคโนโลยีตั้งแต่การผลิต รวมถึงระบบภายในเครื่อง การจ่ายออกซิเจนจะเป็นเทคโนโลยีของเยอรมันโดยตรง ซึ่งเครื่องลักษณะนี้จะระบุบน label ชัดเจนที่ตัวเครื่องมีที่มาที่ไป มีช่องทางตรวจสอบชัดเจนไม่คลุมเคลือ
แล้วต่างยังไงกับมาตราฐานเยอรมันผลิตจีน ?
ในส่วนแรกที่อธิบายเลย คือ คุณอาจจะได้แบรนด์ที่เป็นเยอรมันแท้ๆ ที่มาจากเยอรมันจริงๆ ขั้นตอนการผลิตเทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิต ความมาตราฐานสูง รวมถึงงานประกอบวัสดุที่ดีกว่า
รายละเอียดเล็กๆน้อยเช่นการเก็บเสียงการทำงาน ทำให้เสียงเงียบที่สุด เพื่อไม่ให้รบกวนเวลาที่ผู้ใช้งานอาจจะต้องพักผ่อน ถ้าจากที่ทดสอบรุ่นเริ่มต้นเช่น Aeroplus E 40dBA กับ รุ่นที่เป็นแบรนด์จีน 40dBA เช่นกันแต่เสียงดันต่างกันมากๆครับ ส่วนนี้ใครจะนึกว่าสำคัญหละ เพราะไม่ได้มานั่งดูแลผู้ป่วยด้วย แต่ถ้าเลือกได้ก็ควรจะเลือกที่เงียบหน่อยจะดีครับ เพราะถ้าเครื่องรุ่นที่ดังก็ดังจนเป็นปัญหากวนใจจริงๆครับ
ที่สำคัญคืออะไหล่ต่างๆค่อนข้างทนทานจะเห็นได้จาก Service Record เครื่องที่มาจากเยอรมันจะรับกลับมาซ่อมปัญหาจุกจิกค่อนข้างน้อยมาก เว้นแต่อะไหล่ที่เสื่ิอมสภาพเนื่องจากใช้งานมานานหลายปี การเปิดต่อเนื่องกรณีที่ต้องใช้งานต่อเนื่องยาวนาน
คอมเพลสเซอร์ค่อนข้างทำได้ดีระบายความร้อนไม่ให้เครื่องสะสมความร้อนจนตัดการทำงานไปเอง
ยกตัวอย่างกรณีเคสลูกค้าเคยนำเปิดใช้งานต่อเนื่องไม่ปิดเลยตลอดระยะเวลา 4 เดือน
(ซึ่งผมก็ไม่แนะนำให้ใช้แบบนี้นะครับ) ปกติจะต้องมีการพักบ้างอย่างน้อยวันละ 1 ชม. เพื่อยืดอายุการใช้งานครับ แต่ก็ต้องขอขอบพระคุณลูกค้าที่ทำให้ทีมงานได้เห็นว่าประสิทธิภาพการระบายความร้อน และระบบคอมเพลสเซอร์ทนทานต่อการใช้งานมากๆ
ระบบรักษาความปลอดภัย ส่วนนี้ถือว่าค่อนข้างสูงมาก (ผมค่อนข้างประทับใจกับระบบนี้มากครับ)
เริ่มจากภายในตัวเครื่อง มีระบบฟิวส์ที่เป็นอุปกรณ์นิรภัยป้องกันการลัดวงจร และการใช้กระแสเกิน ซึ่งส่วนนี้ทำให้ระบบภายในเสียหาย รวมถึงเป็นอันตรายได้ ที่ต่างจากแบรนด์อื่นๆคือมีมาให้มากถึง 3 ตัวภายในระบบ เรียกง่ายๆว่าค่อนข้างอุ่นใจเมื่อใช้งานจริงๆ และเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้การเปิดต่อเนื่องนานๆไม่มีปัญหาใดๆ
ระบบ Frie safe ที่มีการป้องกันไฟลุกลามผ่านสายออกซิเจน
หลายๆท่านก็คงจะทราบดีว่าออกซิเจนอาจจะไม่ได้ทำให้เกิดไฟไหม้ได้ง่าย แต่สามารถทำให้ไฟติดได้ง่ายขึ้นทางแบรนด์เยอรมันก็จะติดในส่วนนี้มาให้ใช้งานด้วยเพื่อป้องกันอีกชั้น Frie Safe ทำงานยังไงผมให้ดูคลิปที่แทรกไว้ด้านล่างนี้นะครับ
สารผลิตออกซิเจน (molecular sieve) ทนทานอายุการใช้งานนาน
ส่วนนี้ทางเยอรมันการันตีมาที่ 30,000 ชั่วโมง และมีการรับประกันภายในระบบถึง 3 ปี ซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดเท่าที่จำหน่ายมา (ถ้าใกล้เคียงก็จะเป็น Devilbiss 525KS ของอเมริกาก็จะได้สเปคนี้ครับ)
บทสรุป เครื่องผลิตออกซิเจน ผลิตและนำเข้า จากเยอรมัน
ถึงแม้ว่าเครื่องผลิตออกซิเจนจะมีคุณภาพสูงแค่ แต่ก็ต้องแลกมากับราคาที่สูงขึ้น ซึ่งหากเป็นการใช้งานระยะยาวแล้วละก็ ถือว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าครับ (3x,xxx - 5x,xxx ) ส่วนท่านที่อาจจะจำกัดงบเนื่องจากค่าใช้จ่ายในการดูแลค่อนข้างสูงในการดูแลผู้ป่วยเองที่บ้าน ส่วนนี้ก็มีทางเลือกหลายๆรุ่นให้เลือกเช่นกัน (รุ่นที่ราคาไม่สูง แต่คุ้มราคา) ทั้งนี้ก็อยู่ที่แต่ละท่านจะพิจารณาเลือกซื้อให้เหมาะกับการนำไปใช้งานตามงบที่ตั้งไว้ครับ แต่ที่สำคัญอย่าลืมเครื่องที่เป็นเกรดมาตราฐานการแพทย์ นำเข้าถูกต้อง ผ่านการตรวจสอบจากกระทรวงสาธารณะสุขด้วยนะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความของผมนะครับ หากมีข้อสงสัยในส่วนใดเพิ่มเติมสามารถติดต่อช่องทางติดต่อด้านล่างได้เลยครับ ยินดีให้บริการครับ