ซึ่งหลายๆท่านก็มองว่าเป็นทางเลือกที่ดี
เพราะต้องประหยัดเงินค่าใช้จ่ายไว้ใช้ในส่วนอื่นๆด้วย เพราะการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน ต้องมีองค์ประกอบหลายๆอย่าง ต้องมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
ส่วนนี้ทางทีมงานเข้าใจดีครับ
แต่หลายๆท่านก็ยังกังวลใจว่าจะใช้งานได้จริงหรือป่าว ทำไมถึงราคาถูกมากทางทีมงานก็พยายามหาคำตอบให้ แต่ด้วยเครื่องประเภทลักษณะนี้ทางบริษัทของเราก็ไม่เคยมีการจำหน่ายหรือนนำเข้ามา จึงได้ลองค้นหาจากสเปคเพื่อหาคำตอบให้กับลูกค้า
ซึ่งในสเปคก็ยังคงระบุ ไม่ชัดเจน คลุมเคลือ เช่นปรับอัตราการไหลได้ 1-7 ลิตร/นาที ให้ค่าความเข้มข้นออกซิเจน(สูงสุด) 93% ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่าได้เท่าไหร่เมื่อปรับแต่ละระดับ 1-7
ในที่สุดก็มีลูกค้าท่านหนึ่งที่่ซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนจาก Now Oxygen และได้ทำการฝากเครื่อง ประเภทที่ว่ามาให้แยกชิ้นส่วนทิ้ง ด้วยเหตุผลว่านำไปใช้งานกับคนไข้แล้วไม่เพียงพอต่อการใช้งาน (เครื่องใช้งานไปแล้ว 40 ชั่วโมง)
เป็นโอกาสดีที่ทางทีมงานจึงได้ขออนุญาตินำมาเปรียบเทียบ เขียนบทความให้ทุกท่านทราบว่าสเปคเป็นอย่างไรครับ
ในส่วนที่เราจะมาทดสอบนั้น ก็จะทดสอบแค่เพียงพื้นฐาน ค่าความเข้มข้นออกซิเจน และฟังก์ชันพ่นละอองยาเท่านั้น ซึ่งเป็น Basic ในการเลือกเครื่องผลิตออกซิเจน ซึ่งเคยมีเขียนบทความไว้แล้วในเบื้องต้น (ตามไปอ่านคลิ๊กที่นี่ >>หลักการทำงานเครื่องผลิตออกซิเจนและการเลือกซื้อ<<)
โดยเริ่มทดสอบ เปรียบเทียบกับเครื่องผลิตออกซิเจนที่ทาง Now Oxygen จัดจำหน่าย เลือกเป็นรุ่น Jay-10
โดยทีมงานจะทำการทดสอบ 2 ส่วน
1. ค่าความเข้มข้นในระดับอัตราการไหล 1-7 ลิตร/นาที (ตามสเปคเครื่อง)
ค่าความเข้มข้นออกซิเจน คืออะไร ?
ค่าความเข้มข้น หรือ Oxygen Purity คือระดับความเข้มข้นของออกซิเจนที่ผ่านขบวนการกรองโดยสารผลิตออกซิเจน Molecular Sieves
ซึ่งหลักการทำงานคือดึงอากาศภายนอก (มีออกซิเจน 21%) เข้ามาแยกไนโตรเจนออกจากออกซิเจน และกักเก็บไว้ที่ส่วนกลางเพื่อให้ได้ความเข้มข้นสูงกว่าอากาศที่เราหายใจปกติ
และจ่ายออกทาง Oxygen Outlet โดยค่าความเข้มข้นส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับคุณภาพของสารผลิตออกซิเจน Molecular Sieves โดยค่าเฉลี่ยในเกณฑ์มาตราฐานจะอยู่ที่ 87 - 96 % (มาตราฐานที่ใช้ในการบำบัดรักษาผู้ป่วยจะอยู่ที่ 85% ขึ้นไป) ซึ่งเป็นค่ามาตราฐานของเครื่องที่ถูกผลิตภายใต้การรับรองจากมาตราฐานการผลิต FDA, ISO, CE
อย่างไรก็ตามในส่วนของค่าความเข้มข้นเป็นเพียงค่าที่ออกมาจากเครื่องเท่านั้น หากนำไปใช้งานผ่านอุปกรณ์แต่ละรูปแบบ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงตามอุปกรณ์ที่ใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น
ฟังก์ชั่นพ่นละอองยา จะเป็นระบบ Compressor Air pump โดยหลักการทำงานจะมีแรงดันออกมาจากช่องพ่นยาประมาณ 20-50 psi (แล้วแต่ขนาดของคอมเพลสเซอร์เครื่องผลิตออกซิเจน) และตัวยาจะระเหยออกมาในลักษณะของไอละออง แต่ไม่เป็นหยดน้ำ เพื่อให้คนไข้สูดดมเข้าทางเดินหายใจไปสู่ปอด
บททดสอบที่ 1
ค่าความเข้มข้นออกซิเจน (Oxygen Purity)
ตามที่อธิบายไปเบื้องต้น ว่าค่าออกซิเจนที่ได้มาตราฐาน จะต้องมีค่าความเข้มข้นออกซิเจนเฉลี่ยอยู่ที่ 87-96% ถึงจะเพียงพอในการใช้งานกับคนไข้ คราวนี้เรามาทดสอบเปรียบเทียบกันระหว่าง "ออกซิเจนราคาหลักพัน กับเครื่องผลิตออกซิเจนรุ่น Jay-10"
โดยจะทดสอบตั้งแต่อัตราการไหลที่ 1 ลิตร - 7 ลิตร / นาทีครับ
เริ่มทดสอบที่อัตราการไหล 1 ลิตร/นาที
จากการทดสอบเบื้องต้น อัตราการไหลที่ 1 ลิตร/นาที ของเครื่องผลิตออกซิเจนหลักพัน จอแสดงผลระบุที่ 90%
จากการทดสอบจริงด้วยเครื่องว่าค่า Oxygen ได้ค่าอยู่ที่ 40% - 50% โดยค่ามีการสวิงขึ้นลงต่ำสุดที่ประมาณ 30%
ทดสอบที่อัตราการไหล 2 ลิตร/นาที
จากการทดสอบ อัตราการไหลที่ 2 ลิตร/นาที ของเครื่องผลิตออกซิเจนหลักพัน จอแสดงผลระบุที่ 65%
จากการทดสอบแล้วได้ค่าเฉลี่ยที่ประมาณ 30-40% ซึ่งค่าออกซิเจนที่ได้ลดลงจากระดับลงมา 10%
ทดสอบที่อัตราการไหล 3 ลิตร/นาที
จากการทดสอบ อัตราการไหลที่ 3 ลิตร/นาที ของเครื่องผลิตออกซิเจนหลักพัน จอแสดงผลระบุที่ 55%
จากการทดสอบแล้วได้ค่าเฉลี่ยที่ประมาณ 35% ซึ่งค่าออกซิเจนที่ได้ลดลงจากระดับลงมา 5%
ทดสอบที่อัตราการไหล 4-7 ลิตร/นาที
จากการทดสอบ อัตรการไหลที่ 4-7 ลิตร/นาที ให้ค่าเฉลี่ยที่เท่ากันที่ 25-30% ซึ่งไม่ต่างกันนอกจากแรงดันลมที่ออกมา
ผมจะสรุปเป็นตารางเปรียบเทียบให้ดูดังนี้ครับ
อัตราการไหล | ค่าออกซิเจนตามสเปค | ค่าออกซิเจนที่วัดค่าได้จริง | เครื่องผลิตออกซิเจน รุ่น Jay-10 |
1 ลิตร/นาที | 90% | 40 - 50% | 94% |
2 ลิตร/นาที | 65% | 30 - 40% | 94% |
3 ลิตร/นาที | 55% | 35% | 94% |
4 ลิตร/นาที | 45% | 25 - 30% | 94% |
5 ลิตร/นาที | 40% | 25 - 30% | 94% |
6 ลิตร/นาที | 35% | 25 - 30% | 94% |
7 ลิตร/นาที | 30% | 25 - 30% | 94% |
หากนำไปต่อใช้งานกับสายให้ออกซิเจน Nasal Cannula จะเหลือค่าความเข้มข้นออกซิเจนเท่าไหร่ ?
เครื่องผลิตออกซิเจน (ราคาหลักพัน) ค่าออกซิเจนค่อนข้างสวิงขึ้นลง 25 -50% กรณีนี้หากนำไปใช้งานผ่านสาย
Nasal Cannula (ปรับไม่เกิน 6 ลิตร/นาที) คำนวนค่า % คร่าวๆ จะเป็นตามตามรางนี้ครับ
เปรียบเทียบค่าออกซิเจนเมื่อสวมใส่สายให้ออกซิเจน Cannula ผู้ใช้งานจะได้รับออกซิเจนกี่ %
อัตราการไหล
|
ค่าคำนวนอ้างอิงจากออกซิเจนที่วัดได้![]() |
ค่าคำนวนออกซิเจนที่วัดได้จากเครื่อง Jay-10![]() |
1 ลิตร/นาที | 22% | 24% |
2 ลิตร/นาที | 22% | 28% |
3 ลิตร/นาที | 21% | 32% |
4 ลิตร/นาที | 21% | 36% |
5 ลิตร/นาที | 21% | 40% |
6 ลิตร/นาที | 21% | 44% |
จากตารางดังกล่าวจะเห็นได้ว่า เมื่อนำมาใช้งานจริง ปริมาณออกซิเจนที่ผู้ใช้งานจะได้รับจริงๆเทียบเท่ากับอากาศที่เราหายใจกันปกติเท่านั้น (อากาศปกติจะมีออกซิเจนเพียง 21%) ซึ่งหากนำมาใช้งานกับคนไข้ที่มีภาวะขาดออกซิเจน นั้นไม่เพียงพออย่างแน่นอนครับ
ทดสอบระบบพ่นละอองยา
มาถึงในส่วนที่ต้องเทสพ่นละอองยา ในการพ่นละอองยาแรงอัดอากาศควรมีมากพอที่จะทำให้ตัวยาในกะเปาะละเหยออกมาเป็นไอละอองเพื่อสูดดมเข้าไปได้ ปกติในเครื่องผลิตออกซิเจนจะมีฟังก์ชันนี้ในบางรุ่น ซึ่งหากพ่นด้วยออกซิเจนในเครื่องผลิตออกซิเจน จะไม่สามารถทำได้เหมือนแบบที่ รพ. ยกเว้นเครื่องประเภทแรงดันสูง 20psi
สำหรับการทดสอบเบื้องต้น แรงดันไม่เพียงพอที่จะทำให้ตัวยาระเหยมาเป็นไอได้ดีมากนัก ชุดหน้ากากมีหยดน้ำเปียก
ซึ่งหากพ่นยาโดยทั่วไปควรจะมีปริมาณยาที่ออกมาเห็นเป็นไอละออง หรือคล้ายควันบุหรี่
บทสรุป เครื่องผลิตออกซิเจน หลักพัน ใช้ได้จริงมั้ย ?
ตามรายละเอียดที่ทำการทดสอบกันมาแล้ว ทุกท่านก็น่าจะทราบไปทางเดียวกันแล้วว่าเครื่องลักษณะนี้ ไม่ได้เป็นเกรดที่สามารถใช้งานในทางการแพทย์ได้ หากจะนำไปใช้งานกับคนไข้จริงจัง ก็แนะนำว่าอาจจะไม่เหมาะครับ
กรณีที่ต้องการนำไปใช้งานกับคนไข้อย่างจริงจังอยากให้ดูหลักๆ 3 เรื่องครับ
1. พิจารณาค่าความเข้มข้นออกซิเจนของเครื่องผลิตออกซิเจน ไม่ควรต่ำกว่า 87% ของค่าออกซิเจนที่ผลิตออกมา
เพราะหากต่ำกว่านี้ มีแนวโน้มว่าจะเข้าข่ายเป็นเครื่องที่ไม่สามารถใช้งานทางการแพทย์ครับ
2. ค่าความเข้มข้นไม่ควรดรอปลง เมื่อปรับอัตราการไหลของออกซิเจนเพิ่มขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น เครื่องสเปค 5 ลิตร ควรปรับได้ 1-5 ลิตร โดยค่าออกซิเจนต้องอยู่ระดับ 87-96%
3. เครื่องผลิตออกซิเจนควรมีการรับรองจากองค์กรต่างๆ และมีการนำเข้าโดยถูกต้อง ขึ้นทะเบียนเครื่องมือแพทย์
มีการตรวจสอบจาก อย.
ในกรณีที่ เครื่องนำเข้าโดยไม่ผ่านการตรวจสอบให้ตั้งข้อสังเกตุไว้ว่า
(1.) เครื่องอาจจะไม่ได้มาตราฐานที่จะนำมาจดทะเบียน อย. และจำหน่ายให้ผู้บริโภคได้ใช้งานได้ จึงจำเป็นต้องเลี่ยงการตรวจสอบมาตราฐาน
(2.) เครื่องประเภท เครื่องหิ้ว ซึ่งไม่ได้มีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย กรณีนี้จะมีผลกรณีเครื่องเสีย ส่งซ่อม ไม่มีอะไหล่รองรับ เพราะทางโรงงานผลิตจะส่งอะไหล่ และเทรนการซ่อม ให้เฉพาะบริษัท ที่มีการนำเข้าจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น
ส่วนท่านใดอยากจะเอามาใช้เล่นๆผ่อนคลาย ก็ขึ้นอยู่กับท่านพิจารณาครับ
สำหรับบทความนี้ทางทีมงานก็พยายามรวบรวมข้อมูลมาได้ประมาณนี้ครับ หวังว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่กำลังมองหาเครื่องผลิตออกซิเจนไว้ใช้งานที่บ้าน หากมีข้อสงสัยส่วนไหนเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามกับทางเราได้ตลอด
ปรึกษาฟรี ไม่มีโฆษณาคั่น ตอบคำถามตรงไปตรงมา ได้ที่ Now Oxygen ผ่านช่องทางโทรหรือ ไลน์นะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความครับ
แอดมิน : ปรีชา