จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
ช่องทางสั่งซื้ออื่น ๆ
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า | |
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | ตู้พักฟื้นสัตว์ (Pet Care) |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
||||||||||||||||||||
รายละเอียดสินค้า |
"ตู้สำหรับพักฟื้นสัตว์เลี้ยง ( Survival Bog )" หลายท่านคงสงสัยว่าตู้สำหรับพักฟื้นสัตว์เลี้ยงคืออะไร คือตู้ที่ออกแบบมาให้มีลักษณะเหมาะสมกับสัตว์ที่ต้องการพักฟื้นหรือต้องการให้ออกซิเจนนั่นเอง โดยเฉพาะในกรณีที่มีภาวะโรคและอาการที่อยู่ในภาวะขาดแคลนออกซิเจน เช่น โพรงจมูกอักเสบ มีน้ำมูกหรือก้อนเนื้ออุดตันโพรงจมูก หรือหลอดลมตีบ โรคหอบหืด ปอดอักเสบ มีปอดบวม น้ำในเยื่อหุ้มปอด พยาธิหนอนหัวใจ ฯลฯ หรือออกซิเจนไม่เพียงพอ : เช่น โลหิตจาง หรือเม็ดเลือดแดงไม่สามารถขนถ่ายออกซิเจนได้ (ในการได้รับยาพารา) และความผิดปกติของช่องอก : กระบังลมฉีก มีลมหรือของเหลวในช่องอก อุบัติเหตุ ท่อน้ำเหลืองในช่องอกแตก ฯลฯ
เจ้าของจะสามารถสังเกตได้ว่าสัตว์เลี้ยงของเราอยู่ในสภาวะขาดออกซิเจนหรือไม่
- หายใจเสียงดัง
- หมดสติ ไม่สามารถหายใจด้วยตนเอง
- ลิ้นม่วง
- ใช้ช่องท้องช่วยหายใจ
- เยื่อเมือกเหงือกซีด
โดยตู้พักฟื้นสัตว์จะต่อร่วมกับเครื่องผลิตออกซิเจน ซึ่งสามารถพ่นละอองยา และให้ออกซิเจนได้ คุณสมบัติหลักตู้อคิลิค
คุณสมบัติฟังก์ชั่นเสริม
![]() เครื่องผลิตออกซิเจน 5 ลิตร Devilbiss รุ่น 525KS คุณสมบัติหลัก
ขนาดสินค้า
อุปกรณ์ในชุด
![]() ![]() คำเตือนการใช้งาน 1.ควรตั้งเครื่องไว้ในบริเวณที่โล่งหรือที่ให้ลมผ่านสะดวก ควรวางห่างจากกำแพง อย่างน้อย 1 ฟุต ไม่ควรวางเครื่องไว้ชิดกำแพง ห้ามวางเครื่องบนโฟม ฟูก พรม และหลีกเลี่ยงการวางเครื่องในพื้นที่ที่ไม่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี
2.การเปิดปิดเครื่องแต่ละครั้งควรเว้นระยะเวลาให้เครื่องเซ็ตอัพอย่างน้อย 5 นาทีเครื่องจะไม่สามารถทำงานได้ ในกรณีไฟฟ้าดับหรือไม่มีไฟฟ้า
3.เครื่องจะไม่สามารถทำงานได้ ในกรณีกระแสไฟฟ้าตกเกิน 10% จากกระแสไฟที่จ่าย
4.ในกรณีที่ไม่ใช้งานควรดึงปลั๊กไฟออกทุกครั้ง
5.ในกรณีเคลื่อนย้ายเครื่องต้องวางเครื่องในแนวตั้งเท่านั้น และถอดกระป๋องนํ้าให้ความชื้น ออกจากเครื่องทุกครั้ง
6.ในกรณีเครื่องมีปัญหาขัดข้องหรือไม่สามารถใช้งานได้ กรุณาติดต่อบริษัทฯ ผู้จัดจำหน่าย
7.ควรหมั่นทำความสะอาดภายนอกเครื่องโดยใช้ผ้าชุบนํ้าหมาดๆ เช็ดให้ทั่วและใช้นํ้ายาฆ่าเชื้อ เช็ดอีกครั้งอย่างสมํ่าเสมอ
8.ควรเปลี่ยนไส้กรองในเครื่องอย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน (ติดต่อบริษัทฯ ผู้จัดจำหน่าย)
มาตรฐานสินค้า
1.โรงงาน Canta ได้ทำการวิจัยอุปกรณ์การแพทย์มากว่า 23 ปี และได้มีสายการผลิตมากว่า 14 ปี โดยรับทำ OEM , ODM
ให้กับอุปกรณ์การแพทย์แบรนด์ชั้นนำต่างๆ
2.ได้รับการรับรองมาตราฐานการผลิตเครื่องมือแพทย์อย่างเคร่งครัดจนได้รับ ISO13485 ในปี 2005
3.ได้รับการรับรองคุณภาพสินค้าที่ได้มาตราฐาน ISO 13485 และ 9001
4.ได้รับการรับรองจาก European Conformity (CE) มีความปลอดภัย ถูกต้อง ตามข้อกำหนดต่อการใช้งานทางการแพทย์
5.ได้รับการรับรองจากองค์การอาหาร และยาแห่งสหรัฐอเมริกา Food and Drug Administration (FDA)
6.ได้รับการรับรองจาก Restriction of Hazardous Substances (RoHS)
มาทำความรู้จักกับแบรนด์ Devilbiss
![]() Devilbiss มีที่มายังไง Devilbiss ก่อตั้งเมื่อปี คศ.1888 ชื่อนี้มีที่มาจาก Dr.Allen DeVilbiss ผู้คิดค้นนวัตกรรมทางการแพทย์ ได้คิดริเริ่มอุปกรณ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีภาวะการหายใจติดขัดผิดปกติ ให้หายใจได้สะดวกขึ้น ในยุคสงครามช่วง คศ. 1800 ซึ่งอุปกรณ์ช่วยเหลือในทางการแพทย์ด้านทางเดินหายใจค่อนข้างมีจำกัด และไม่สามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากนัก โดย Dr.Allen มองเห็นว่าควรจะมีอุปกรณ์ที่ช่วยทำให้ผู้ป่วยหายใจได้ง่ายขึ้น ![]() ผู้ป่วยบางเคสมักจะมีอาการเหนื่อย หอบหืด เป็นหวัด และมีเสมหะมากในทางเดินหายใจ และในยุคเริ่มแรก ก็จะมีเครื่องพ่นละอองยาแบบมือบีบซึ่ง ใช้พ่นยา แต่ด้วยการนวัตกรรมในยุคนั้นยังไม่ดีนัก Dr.Allen จึงรู้สึกไม่พอใจกับอุปกรณ์ที่เค้าใช้กับคนไข้ เนื่องจากยังไม่ได้ตอบโจทย์มากนัก ทำให้ Dr.Allen ได้เริ่มคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่เรียกว่า ตัวทำสารละลายให้เกิดเป็นไอละเหย ซึ่งเป็น เครื่องพ่นละอองยา ที่ใช้กันในปัจจุบัน ที่ใช้สำหรับพ่นตัวยาละลายเสมหะ และแก้โรคภูมิแพ้ที่ทำให้เป็นหวัดอยู่บ่อยๆ โดยตัวขวดจะมีการบรรจุตัวยา และมีมือบีบด้านหลัง เพื่อควบคุมไอละอองของตัวยาได้ รวมถึงแกนด้านหน้า ที่ยาวเพื่อช่วยให้ตัวเข้าไปยังทางเดินหายใจได้โดยตรง ![]() โดยการทดลองประกอบ และทดสอบด้วยอุปกรณ์จากสิ่งที่เหลือใช้ในทางการแพทย์ และทำการประกอบที่หลังบ้านของเขา จนสำเร็จ และนำไปเสนอต้นแบบผลิตภัณฑ์ตัวนี้ให้กับโรงงานผลิตหลายๆที่ เพื่อทำการผลิตออกวางจำหน่ายให้กับผู้ป่วยที่ต้องพ่นยาสามารถทำเองได้ที่บ้าน แต่ก็ถูกโรงงานหลายๆที่ปฏิเสธสิ่งประดิษฐ์ของ Dr.Allen เนื่องจากเทคโนโลยี และความเคยชินของยุคนั้น ทำให้หลายๆที่ยังไม่เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ![]() แต่แล้วในปี คศ. 1888 Dr.Allen ได้ก่อตั้งบริษัท Devilbiss ขึ้นเพื่อมุ่งเน้นผลิต เครื่องพ่นละอองยา และคนนับล้านได้ใช้งานสิ่งประดิษฐ์ที่ Dr.Allen เป็นผู้คิดค้นขึ้น หลังจากนั้นก็ได้มีการพัฒนาสินค้าออกมา จากระบบการพ่นยา Air Pump เป็นระบบ Ultra Sonic ที่สามารถพ่นได้ละเอียดกว่า และใช้กันมาต่อเนื่องจนถึงยุคปัจจุบัน ![]() ![]() ภาพเครื่องพ่นละอองยาชนิด Air pump และ Ultra Sonic Dr.Allen Devilbiss ได้เสียชีวิตลงในปี 1917 ในวัย 74 ปี ซึ่งหลังจากนั้นก็มีหนึ่งในหุ้นส่วน และทายาทได้สานต่อธุรกิจ โดยบริษัท Devilbiss ได้ร่วมกับบริษัท Drive Medical ซึ่งเป็นบริษัทผลิตวัสดุอุปกรณ์สำหรับดูแลผู้ป่วยที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นรถเข็นผู้ป่วย ไม้เท้าช่วยพยุง เก้าอี้อาบน้ำ เตียงผู้ป่วย ที่นอนผู้ป่วย จนกลายเป็น Drive Devilbiss Healthcare จนถึงปัจจุบัน สำหรับ Devibiss นั้นก็เป็นชื่อที่ผ่านมาในทุกยุคทุกสมัยเลยทีเดียวครับ และผ่านเหตุการณ์สำคัญต่างๆของโลกมาจนถึงปัจจุบัน ทำให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ทั้งเอเชีย และยุโรป ปัจุบันโรงงานผลิตหลักของ Devilbiss จะอยู่ที่ ประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศเยอรมนี และมีตั้งอยู่ทั้งในเอเชีย, ยุโรป เครื่องผลิตออกซิเจน Devilbiss มีแบบไหนบ้าง เครื่องผลิตออกซิเจน Devilbiss นั้นมีหลายชนิดเริ่มตั้งแต่ • แบบพกพา • ขนาด 5 ลิตร • ขนาด 10 ลิตร โดยทั้ง 3 รุ่นทาง Now Oxygen ได้นำเข้ามาจำหน่ายพร้อมๆกัน จะมีเพียง iGo2 เท่านั้นที่ออกภายหลัง (ก่อนหน้าจะเป็นรุ่น iGo) ![]() ![]() ที่เคยมีเขียนรีวิวแบบพกพา รุ่น iGo2 ไว้เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งก็ถือเป็นนวัตกรรม ใหม่ที่ทาง Devilbiss คิดค้นเทคโนโลยี Smart Dose เพิ่มขึ้นมาในระบบ ถือเป็นที่สุดของเครื่องพกพาเลยก็ว่าได้ครับ หากท่านใดสนใจสามารถแวะเข้าไปอ่านรีวิวได้ครับผม >>รีวิว เครื่องผลิตออกซิเจน Devilbiss igo2 สำหรับพกพา ใช้บนรถ ใช้บนเครื่องบิน ใช้เดินทางข้ามประเทศได้ !!<< ![]() คำเตือนและการดูแลรักษาเครื่องออกซิเจน 1. ควรตั้งเครื่องไว้ในบริเวณที่โล่งหรือที่ให้ลมผ่านสะดวก ควรวางห่างจากกำแพง อย่างน้อย 1 ฟุต ไม่ควรวางเครื่องไว้ชิดกำแพง ห้ามวางเครื่องบนโฟม ฟูก พรม และหลีกเลี่ยงการวางเครื่องในพื้นที่ที่ไม่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี 2. การเปิดปิดเครื่องแต่ละครั้งควรเว้นระยะเวลาให้เครื่องเซ็ตอัพอย่างน้อย 5 นาที 3. ก่อนใช้ฟังก์ชั่นพ่นยาต้องปรับระดับอัตราการไหลของออกซิเจนเป็น 0 ลิตรต่อนาที ก่อนทุกครั้ง 4. เครื่องจะไม่สามารถทำงานได้ ในกรณีไฟฟ้าดับหรือไม่มีไฟฟ้า 5. เครื่องจะไม่สามารถทำงานได้ ในกรณีกระแสไฟฟ้าตกเกิน 10% จากกระแสไฟที่จ่าย 6. ในกรณีที่ไม่ใช้งานควรดึงปลั๊กไฟออกทุกครั้ง 7. ในกรณีเคลื่อนย้ายเครื่องต้องวางเครื่องในแนวตั้งเท่านั้น และถอดกระป๋องนํ้าให้ความชื้น ออกจากเครื่องทุกครั้ง 8. ในกรณีเครื่องมีปัญหาขัดข้องหรือไม่สามารถใช้งานได้ กรุณาติดต่อบริษัทฯ ผู้จัดจำหน่าย 9. ควรหมั่นทำความสะอาดภายนอกเครื่องโดยใช้ผ้าชุบนํ้าหมาดๆ เช็ดให้ทั่วและใช้นํ้ายาฆ่าเชื้อ เช็ดอีกครั้งอย่างสมํ่าเสมอ 10. ควรทำความสะอาดไส้กรองข้างเครื่องทุกสัปดาห์ โดยล้างนํ้าและผึ่งลมให้แห้ง 11. ควรทำความสะอาดไส้กรองในเครื่องเป็นประจำทุกเดือน 12. ควรเปลี่ยนไส้กรองในเครื่องอย่างน้อยทุกๆ 1 ปี ![]() เครื่องผลิตออกซิเจน (Oxygen Concentrator)
เครื่องผลิตออกซิเจน หรือ Oxygen Concentrator เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการหายใจ หรือผู้ที่ต้องการออกซิเจน เนื่องจากมีปริมาณออกซิเจนในเลือดต่ำ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า ประหยัดกว่า และสะดวกมากขึ้นกว่าการใช้ถังออกซิเจน ปัจจุบันเครื่องผลิตออกซิเจนถูกพัฒนาจนมีประสิทธิภาพ และมีเสถียรภาพสูง สามารถตอบโจทย์ผู้ป่วยที่ต้องการบำบัดด้วยออกซิเจนที่บ้านได้เป็นอย่างดี
หลักการทำงานของเครื่องผลิตออกซิเจนจะอาศัยแรงดันอัดอากาศปกติผ่านตัวกรองออกซิเจน (Molecular Sieve) เพื่อกักโมเลกุลของออกซิเจนไว้ ส่วนไนโตรเจนจะไหลผ่านไปได้ ทำให้ได้ออกซิเจนที่เข้มข้นขึ้นถึงประมาณ 90% เครื่องผลิตออกซิเจนในปัจจุบันสามารถให้ออกซิเจนที่อัตราไหลสูงถึง 10 ลิตร/นาที และยังมีเครื่องผลิตออกซิเจนอีกประเภทที่อาศัยแผ่นเยื่อที่มีคุณสมบัติเป็น Semipermeable ซึ่งจะยอมให้โมเลกุลของออกซิเจนและน้ำผ่านได้เท่านั้น เครื่องผลิตออกซิเจนประเภทนี้จึงมีประสิทธิภาพที่ต่ำกว่า และให้ออกซิเจนเข้มข้นน้อยกว่าที่ประมาณ 40% แต่ข้อดีก็คือมีน้ำหนักเบา ซึ่งสามารถผลิตเครื่องให้มีขนาดที่เล็กกว่า เป็นแบบชนิดพกพาได้
โดยปกติแล้วการใช้เครื่องผลิตออกซิเจนจะใช้เป็นส่วนเสริมเครื่อง CPAP ร่วมกันรักษาการหยุดหายใจขณะหลับ โรคถุงลมโป่งพอง โรคปอด และโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ในการเลือกซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนนั้น ก่อนอื่นจะต้องปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะเลือกซื้อ ว่าใครใช้ในปริมาณเท่าใด เพื่อความเหมาะสม และปลอดภัยต่อผู้ใช้งาน เครื่องผลิตออกซิเจน มีทั้งหมดมีกี่แบบ และแต่ละแบบเหมาะกับการใช้งานแบบไหนบ้าง ? โดยผมจะแยกสรุปเป็นหมวดหมู่ดังนี้ ![]() 1.เครื่องผลิตออกซิเจนที่ใช้งานภายในบ้าน เครื่องผลิตออกซิเจนประเภทนี้จะมีขนาดกลาง - ใหญ่ แล้วแต่รุ่น นิยมใช้สำหรับผู้ป่วยที่ต้องพักรักษาตัวภายในบ้าน จะมีหลายขนาด เริ่มตั้งแต่ 3 ลิตร/นาที ไปจนถึง 10 ลิตร/นาที ซึ่งลักษณะการใช้งานก็จะแตกต่างกันไป จะสรุปให้ทุกท่านได้อ่านในหัวข้อถัดไป ว่า แต่ละขนาดเหมาะกว่าใคร ก่อนอื่นผมขอตอบคำถามยอดฮิตที่สำหรับผู้ที่เลือกซื้อไปใช้งานครั้งแรก มักจะสงสัย และถามกันอยู่ประจำ ![]() จะมีลูกค้าบางท่านมักจะถามกันเป็นประจำว่าเครื่องผลิตออกซิเจน 3 ลิตร กับ 5 ลิตร ต่างกันอย่างไร 3 ลิตร หมายถึงการปรับอัตราการไหลของออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายต่อนาทีเป็นจำนวนลิตร นั่นคือปรับได้สูงสุด 3 ลิตร ต่อนาที (1-3 ลิตร) โดยที่ค่าออกซิเจน ยังได้ในระดับคงที่มาตราฐาน 93 +/- 3% (ออกซิเจนไม่ดรอป) 5 ลิตร หมายถึงการปรับอัตราการไหลของออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายต่อนาทีเป็นจำนวนลิตรนั่นคือปรับได้สูงสุด 5 ลิตร ต่อนาที (1-5 ลิตร) โดยที่ค่าออกซิเจน ยังได้ในระดับคงที่มาตราฐาน 93 +/- 3% (ออกซิเจนไม่ดรอป) นั่นหมายถึงว่าต่างกันที่การปรับอัตราการไหลได้สูงสุดต่อนาที ถ้าพูดภาษาบ้านๆก็คือ แรงลมของออกซิเจนที่ออกมาสูงสุด โดยที่ค่าออกซิเจนคงที่ 93 +/- 3% ไม่ดรอปลงนั่นเอง อ่านมาถึงตรงนี้ก็พอจะเข้าใจหลักการกันบ้างแล้ว งั้นขอเข้าเรื่องว่าขนาดลิตร แต่ละรูปแบบเหมาะกับใคร ใครควรใช้ ใครไม่ควรใช้ ![]() (1.)เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 3 - 6 ลิตร / นาที เป็นขนาดที่นิยมใช้ในวงการแพทย์แพร่หลาย เนื่องจากผู้ป่วยที่ต้องกับไปพักรักษาตัวที่บ้าน ส่วนใหญ่มักนิยมให้ออกซิเจน ด้วยสาย Cannula ซึ่งในทางการแพทย์จะกำหนดให้ใช้ได้ ไม่เกิน 6 ลิตร/นาที เนื่องจากหากเกินมากกว่านั้น โพรงจมูกจะอักเสพ และอาจจะทำให้เลือกกำเดาไหลออกมาได้
ถือว่าเป็นอันตรายต่อการใช้งาน สำหรับการให้ออกซิเจนในระดับ 0.5-6 ลิตร/นาที นั้นเหมาะกับผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ รวมไปถึงโรคอื่นๆ ที่มีปัญหาทางเดินหายใจ หอบเหนื่อย หายใจไม่สะดวก ก็ขึ้นอยู่กับว่าแพทย์สั่งว่าควรใช้ในปริมาณไหน แต่ให้จำไว้ว่า Cannula ใช้เครื่องสเปค 5 ลิตร/นาที ก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องซื้อ รุ่น 8-10 ลิตรให้เปลืองเงินในกระเป๋าเปล่าๆ แล้วหากผู้ป่วยต้องพ่นยาด้วย ต้องใช้ 8-10 ลิตรมั้ย? ก็ไม่จำเป็นที่ต้องใช้อยู่ดี เพราะเครื่องรุ่นใหม่ๆ มักจะมีฟังก์ชันพ่นยามาในตัวอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการจะซื้อเครื่องผลิตออกซิเจนสักเครื่อง ถ้าผู้ป่วยต้องพ่นยาด้วย ก็ใช้เครื่อง 3 หรือ 5 ลิตร / นาที ได้ครับ หากเป็นการใช้งานแบบสาย Cannula
ปัจจุบัน เครื่องขนาดดังกล่าว ก็นิยมใช้กับคนทั่วไป (ไม่ได้ป่วย) แต่รู้สึกอ่อนเพลีย อันเนื่องมากจากสภาพอากาศ หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ออกซิเจนดรอป ก็สามารถให้ออกซิเจนได้เหมือนกัน โดยจะให้ในปริมาณเล็กน้อย และให้ระยะเวลาที่ไม่นาน เพื่อให้รู้สึกสดชื่น หรือสามารถนอนหลับได้ง่ายขึ้น ![]() (2.) เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 8 - 10 ลิตร / นาที ซึ่งแบบดังกล่าวก็จะครอบคลุมขึ้นมาอีกขั้น สามารถใช้ผ่านสาย Cannula ในแบบเครื่อง 3-6 ลิตร/นาที ก็ได้ แต่ควรปรับไม่เกิน 6 ลิตร/นาที ส่วนใหญ่มักจะซื้อไปใช้งานกับผู้ป่วยที่ต้องการความเข้มข้นของออกซิเจนสูง จะใช้ผ่าน หน้ากากแบบมีถุงลม (Mask With Bag) ซึ่ง Mask With Bag จะไม่สามารถใช้งานเครื่องผลิตออกซิเจนที่ต่ำกว่า 8 ลิตรได้
ผู้ป่วยอีกประเภทที่นิยมนำไปใช้ คือผู้ป่วยเจาะคอ ที่ใช้ หน้ากากแบบครอบคอ (tracheostomy mask) แต่มีข้อยกเว้นว่าต้องเป็นการต่อกับกระปุกน้ำทำความชื้นแบบธรรมดา และไม่สามารถต่อกับกระปุกปรับ % ทำความชื้นได้ (ท่องวงช้าง)
![]() (3.) เครื่องผลิตออกซิเจน ขนาด 8 - 10 ลิตร 20 psi ( แบบแรงดันสูง ) สำหรับผู้ป่วยเจาะคอ และผู้ป่วยทั่วไป เครื่องลักษณะนี้ จะเป็นชนิดพิเศษกว่ารุ่นอื่นๆ เพราะสามารถใช้งานได้ครอบคลุมกับทุกประเภท และใช้งานกับอุปกรณ์ออกซิเจนได้ทุกรูปแบบ แต่ที่นำไปใช้บ่อยๆ จะใช้กับผู้ป่วยที่เจาะคอ โดยใช้อุปกรณ์เป็นกระปุกแบบปรับ % ทำความชื้นเพื่อละลายเสมหะที่เหนียวข้นของผู้ป่วยเจาะคอได้ เพราะเครื่องผลิตออกซิเจนแรงดันธรรมดา ขนาด 8-10 ลิตร/นาที นำไปต่อแล้วจะเกิดแรงต้านทำให้ ออกซิเจนที่ปล่อยออกมา ได้ไม่เกิน 5 ลิตร/นาที ซึ่งไม่ตรงกับสเปคของเครื่อง และอาจจะไม่เพียงพอต่อการใช้งาน
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
||||||||||||||||||||
เงื่อนไขอื่นๆ |
![]() การรับประกันตู้พักฟื้นสัตว์เลี้ยง
![]() ![]() |
||||||||||||||||||||
Tags |